อันยองฮาเซโย เหล่าออนนี่ทั้งหลาย!
วันนี้ขอเสนอ Mini Guide เที่ยวกรุงเทพฯ ยังไงให้ฟีลเกาหลีกับ 5 Café บรรยากาศสุดเกาที่พร้อมเติมเต็มความละมุนละไม Feel like Korea ให้สาวๆ ได้ฟีลกู๊ดตลอดทั้งวัน บอกเลยว่าแต่ละร้านที่เลือกมานั้นการันตีว่าดีมาก ทั้งร้านสวย ขนมอร่อย มู้ดดี คุมโทนได้ เอาเป็นว่าไม่ต้องคิดเยอะ แค่ลุกขึ้นมาแต่งตัวเก๋ๆ หยิบพร็อพน่ารักๆ แล้วมาโพสท่าคิวท์ๆ ตามรอยเรากัน รับรองว่าจะได้รูปปังๆ เพียบ ชนิดที่ว่าอัพได้ทุกวัน วันละสามเวลาหลังอาหารไปเลยจ้า
Hint Café

เริ่มกันที่ร้านแรกกับคาเฟ่ที่มาเปลี่ยนย่านกรุงธนบุรีให้เป็นยอนนัมดงในพริบตา มาในชื่อว่า Hint Café ออกแบบดูดีมีสไตล์ เรียบง่ายแต่คลาสสิกมาก อบอวลไปด้วยกลิ่นอายสไตล์เกาหลีจนนึกว่าว้าปไปอยู่ย่านฮงแดเลยทุกคน ตัวร้านเป็นอาคารตึกแถวตกแต่งคุมโทนด้วยสีขาวและสีเบจ ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเก้าอี้ไม้สาน หรือโมบายไม้ที่ห้อยลงมา รวมถึงเก้าอี้ใสๆ ที่ฮิตมากในเกาหลีที่นี่ก็มี เรียกว่าถูกใจสายมินิมอล สายคาเฟ่ฮอปปิ้งแบบเราเป็นที่สุดเลย แนะนำว่าควรเลือกชุดสีขาวครีมจะยิ่งคิวท์มาก

เราเลือกสั่งเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Hint Coffee ที่เป็นชื่อเดียวกับร้าน เป็นกาแฟ Dalgona สไตล์เกาหลีที่กำลังฮิต ทางร้านเสิร์ฟความอร่อยมาให้กินคู่กับแผ่นน้ำตาล วิธีคือต้องทุบก่อนดื่มเพื่อให้ได้รสสัมผัสกลมกล่อม หอมหวานละมุน รสชาติโดยรวมลงตัวมาก ยิ่งกินคู่กับ Choux Darkchoc และ Basque Burnt Cheesecake ด้วยยิ่งฟินไปใหญ่ ไม่อยากลุกไปไหนเลยเอาจริง ยังไม่หมดเท่านี้นะ ทางร้านยังมีกิมมิกน่ารักโดยวางพร็อพเป็นแว่นขยายไว้ทุกโต๊ะ ให้เราสวมบทเป็นนักสืบ หรือจะยืมมาถ่ายรูปครีเอทมุมเก๋ๆ ก็ได้เช่นกัน


HUUS of BREAD

จากธนบุรีเรามาต่อกันที่ย่านพระโขนง พาทุกคนไปฮอปปิ้งชิมขนมปังกันต่อที่ร้าน HUUS OF BREAD คาเฟ่สุดฮิตสไตล์มินิมอลคุมโทนสีน้ำเงิน-น้ำตาล ดูแล้วสบายตา มาพร้อมโลโก้สุดน่ารัก แม้ร้านจะอยู่ติดถนนใหญ่ มีรถสัญจรขวักไขว่ไปมา แต่พอเราก้าวเข้ามาในร้านจะรู้สึกเหมือนเวลาเดินช้าลง ได้เห็นเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ที่ไม่ซ้ำแบบกันโดยเฉพาะเก้าอี้ แถมยังรายล้อมไปด้วยงานศิลปะทรงเรขาคณิตสุดฮิปให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในมิวเซียมดีๆ ไม่ว่ามุมไหนก็ลงตัวไปหมด
ความลงตัวของ HUUS of BREAD ยังรวมไปถึงเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Shonut (โชนัท) ขนมปังที่เป็นการผสมผสานระหว่าง Shokupan + Donut มีความหนานุ่มหนึบและมันเลี่ยนน้อยกว่าแป้งโดนัททั่วไป เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน มีไส้ให้เลือกถึง 5 ไส้ ไล่ตั้งแต่เลมอน ราสพ์เบอร์รี วานิลลา ชาเขียว และช็อกโกแลต เน้นทำสดใหม่ทุกวัน การันตีความอร่อยจนต้องซื้อกลับบ้านกันแทบทุกคนที่ได้ชิมเลย

ไม่ใช่แค่ชั้นล่างที่มีมุมน่าถ่ายรูป บนชั้นสองก็ให้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านสมกับชื่อร้านที่มีคำว่า Hus ซึ่งแปลว่า ‘บ้าน’ ผสมกับคำว่า Us ที่ความหมายว่า ‘เรา’ สื่อถึงความตั้งใจของร้านที่อยากให้เป็นเหมือนบ้านขนมปังของทุกคนนั่นเอง
Unbidden Café

แค่เห็นหน้าร้านก็ตาลุกวาว นี่เราว้าปมาอยู่โซลตั้งแต่เมื่อไหร่ คาเฟ่น้องใหม่ชื่อว่า Unbidden Café แค่ยืนอยู่ด้านนอกก็ดึงดูดสายตาเราแบบสุดๆ คุมโทนด้วยสีขาวครีม มีเก้าอี้ยาวให้นั่งเล่น โพสท่าถ่ายรูปกันให้เต็มที่ พอเปิดประตูเข้าไปก็จะเจอกับเคาน์เตอร์บาร์สุดน่ารัก เปิดเพลงเกาหลีฟังสบายๆ เพลินมาก เราชอบที่หน้าร้านมีกระจกบานใหญ่ทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้เต็มที่ ส่งให้ฟีลร้านยิ่งอบอุ่นละมุนขึ้นอีกหลายเท่า
เมนูขนมของร้านนี้มีให้เลือกไม่เยอะ แต่ที่ห้ามพลาดคือ Rare Cheesecake กลมกล่อมลงตัวมาก กินกับ Yuzu Honey Soda สดชื่นซาบซ่า ได้รสสัมผัสของเนื้อส้มเวลาดื่มด้วย นอกจากนี้ก็มีเสื้อผ้าแนวมินิมอลตามแบบฉบับเกาหลีให้ช้อปปิ้งอีก บอกเลยว่าเพลิน

Modus.23

เห็นร้านนี้ครั้งแรกก็ตกหลุมรักเต็มๆ Modus.23 คาเฟ่สายเกาที่คุมโทนทั้งร้าน ถ้าขึ้นไปชั้นบนจะตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทนเป็นหลัก เคาน์เตอร์สีขาวตัดกับผนังสีครีม พออยู่รวมกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่คัดสรรมาอย่างดี บอกเลยว่าลงตัวมาก บรรยากาศรอบๆ ตกแต่งด้วยข้าวของน่ารักมากมาย ใช้เป็นพร็อพถ่ายรูปได้ด้วย


แนะนำให้ทุกคนลองสั่งเมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่ชื่อว่า Maroon Velvet Cake Creamcheese Frosting เค้กเร้ดเวลเว็ทสีสวยที่สามารถเลือกได้ระหว่างเสิร์ฟแบบ Delight Creamcheese ครีมชีสโยเกิร์ตรสเปรี้ยวจากเลมอน หรือ Fresh Creamcheese ครีมชีสเนื้อเนียนนุ่มละมุนที่นำเข้าจากออสเตรเลีย

Niche Tea

ใครที่หลงรักบรรยากาศโฮมคาเฟ่ ชอบพื้นที่เล็กๆ อบอวลด้วยมวลความอบอุ่น ต้องไม่พลาดมาเช็คอินที่ร้าน Niche Tea ซึ่งร้านนี้เป็นสาขาน้องใหม่อยู่ซอยพหลโยธิน 2 เป็นคาเฟ่ที่เน้นเสิร์ฟเมนูมัทฉะแบบ Specialty มีมุมถ่ายรูปปังๆ ทั้งหน้าร้านและภายในร้าน แต่มุมที่ได้ใจเราไปครองคือมุมกิ่งไม้แห้งสไตล์เกาหลีที่อยู่ด้านในสุดของร้าน ไม่ว่าจะยืนหรือนั่งมุมไหนก็ได้รูปสวยถูกใจแน่นอน
ในส่วนของเมนูเราแนะนำให้ลองสั่ง Clear Matcha ชาใสที่นิยมใช้ในงานพิธีของญี่ปุ่น ให้รสสัมผัสหวานนิดๆ ตามธรรมชาติของชา ชงด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิ 80°C ก่อนจะนำไปคูลดาวน์ แก้วนี้ดื่มง่าย เหมาะสำหรับคนเพิ่งเริ่มดื่มชา กินคู่กับ Matcha Terrine Terrine สูตรไม่ใช้แป้งและน้ำตาล เนื้อเนียน รสชาติเข้มข้น เสิร์ฟเคียงมากับแครกเกอร์และพีช แนะนำให้กินพร้อมกันในคำเดียวจะฟินมากๆ
